พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ

[dsmol19]

พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
         ในสมัยโบราณเมื่อมนุษย์ยังไม่ทราบ การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ การที่ดูวันที่เป็นนั้นมาจากรู้จักการดูดวงดาวเพื่อมองวันเดือนปี
ให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แล้วก็เริ่มมีการสร้างเครื่องจับเวลา สร้างการจดบันทึกหรือวางแบบการดูดาวต่างๆเพื่อทำการแบ่งฤดูกาล
แบ่งวันเดือนปีต่างๆการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ ทำให้สามารถระบุออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน ดำรงชีพประจำวันได้
ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้มีการจำเรื่องราวรวมถึงใช้เพื่อสำหรับในการเตือนความจำต่างๆเจริญอีกด้วย
พวกเราก็เลยพินิจได้ว่าสำหรับเพื่อการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะหรือลักษณะของปฏิทินแขวนไทย ชอบมีการบอกกำกับถึงข้างขึ้น
ข้างแรมเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการดูดวงจันทร์ที่เราจำเป็นต้องใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะมิได้บอกเพียงแค่การรับทราบวันเดือนปีได้เพียงแค่นั้น
แต่ว่าการเขียนจำวันตลอดปีก็ไม่ใช้ว่าจะง่าย การออกแบบพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะและก็นับวันให้ตรงกันทั้งโลก จึงเป็นกรรมวิธีที่มนุษย์ใช้ร่วม
กัน อย่างไรก็แล้วแต่รูปแบบของการนับวันที่ร่วมกันอย่างเป็นสากลสามารถช่วยเหลือกันกำหนดเพื่อกระทำนัดหมายหรือทำ
บอกวันในช่วงเวลาที่สำคัญได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การกำหนดปฏิทินอย่างเป็นสากลก็เลยมีความเกี่ยวข้องต่อยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่ง
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
ก่อนจะเป็นการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การกำเนิดปฏิทินหนแรกของโลกมาจากชาวบาบิโลเนียน ซึ่งมีการย้อนรอย
กลับไปในตอนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมาจากภาษาโรมันของชาวภาษากรีกสมัยก่อน ในสมัยของชาวกรีกโบราณนั้นยังไม่
มีการใช้การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ แต่ว่าคนโบราณมีการทำปฏิทินบอกวันเวลาขึ้นมา เมื่อถึงกำหนดเวลาจะมีผู้ที่กระทำร้องบอกวัน
เวลาขึ้น การบอกเวลาในยุคเก่ามีความหมายมากเพื่อเป็นการบอกการขึ้นวันเดือนใหม่เพื่อให้ทราบถึงลูกหนี้ที่ยังมีการ
ติดหนี้ของเจ้าหนี้อยู่ ภาษาอังกฤษคือ "I Cry" ภาษาไทยหมายความว่า "การส่งเสียงร้องบอก" ภาษาโรมันของชาวภาษากรีกโบราณกาล
เรียกว่า Kalend ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Calendar ในภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็แล้วแต่การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะมีประวัติความเก่าแก่สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของปฏิทินโลก ระยะเวลาของ
การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะนั้นยาวนานมีความเก่าแก่มานานมากกว่าพันปี โดยระบบการนับวันที่ตามชาวบาบิโลเนียนที่มีการ
ระบุวันเดือนปีขึ้นมาสังเกตจากระยะต่างๆของพระจันทร์เกี่ยวกับการสังเกตข้างขึ้นข้างแรม ตอนนี้เราสามารถ
แปลความนั้นได้ว่าเป็นรูปแบบของประเภทปฏิทินจันทรคติ โดยเมื่อครบการกำหนดข้างขึ้นข้าแรมครบ 12 รอบจะเป็น
การครบฤดูให้เวียนกลับมา
ปฏิทินของประเทศไทยได้ถูกเผยแพร่ขึ้นคราวแรก 14 ม.ค. พุทธศักราช 2385 ตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 3 โดยเหตุนั้น ทุกเมื่อเชื่อวันที่ 14
ม.ค.ทุกปี มีการกำหนดให้เป็นวันที่มีความหมายเพราะเหตุว่าใช้ปฏิทินเผยแพร่ขึ้นมาทีแรก เมืองไทยในยุคอดีตกาลมี
การใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่สมัยจังหวัดสุโขทัยมีการนับเป็นปีตามมหาศักราชและจุลศักราช ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการกรุณาจากแบบปฏิทินเดิมให้แปลงเป็นปฏิทินสุริยคติ มีต้นแบบ
การใช้มีความล้ำยุคลักษณะสากลตามปฏิทินเกรกอเรียน ท้ายที่สุดจึงมีการทำการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นเพื่อใช้งานนั้นเอง